|
|
 |
บริษัท เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือชื่อเดิม บริษัท เอเชียน แคปปิตอล
แอ๊ดไวเซอร์ส จำกัด ก่อตั้งในปีพ.ศ. 2541 โดย ดร. วิวัฒน์ วิทูรย์เธียร เพื่อให้บริการด้านที่ปรึกษาทางการเงินและที่ปรึกษาด้านวาณิชธนกิจ
ซึ่งรวมถึงการเป็นที่ปรึกษาในการปรับโครงสร้างหนี้ ตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง บริษัทฯได้ขยายความเชี่ยวชาญ
และการให้บริการทางการเงินด้านต่างๆ ซึ่งรวมถึงการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ
และให้บริการสินเชื่อเพื่อการอุปโภคและบริโภค อย่างต่อเนื่อง
|
|
 |
2541 |
- ก่อตั้งบริษัทในนาม บริษัท เอเชียน แคปปิตอล แอ๊ดไวเซอร์ส จำกัด เพื่อให้บริการที่ปรึกษาทางการเงินและวาณิชธนกิจ
|
|
 |
2546 |
- บริษัทฯ แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน และเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท เอแคป แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด
(มหาชน)
- บริษัท เจแปน เอเชีย อินเวสต์เมนท์ จำกัด (เจ เอ ไอ ซี) และ เจ เอ ไอ ซี เอเชีย โฮลด์ดิ้งส์
เข้ามาลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทฯ
|
|
 |
2548 |
- บริษัทฯ ออกหุ้นสามัญจำนวน 23 ล้านหุ้นเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชนในครั้งแรก และได้เข้าตลาดหลักทรัพย์
เอ็ม เอ ไอ (ใช้ชื่อย่อ ACAP)
|
|
 |
2549 |
- บริษัท บริหารสินทรัพย์เอแคป จำกัด ได้รับใบอนุญาตทำธุรกิจบริหารสินทรัพย์จาก ธนาคารแห่งประเทศไทย
|
|
 |
2550 |
- บริษัท บริหารสินทรัพย์เอแคป (มาเลเซีย) ก่อตั้งด้วยทุนจดทะเบียน 500,000 ริงกิต และเป็นธนาคารแห่งแรกในมาเลเซีย
ซึ่งให้บริการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยในประเทศมาเลเซีย
- บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการควบรวมและบริหารหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ มูลค่ากว่า
70 ล้านริงกิต ในประเทศมาเลเซีย
- โอริกซ์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศญี่ปุ่น) ร่วมลงทุน ในหุ้นสามัญของบริษัทฯ จำนวน 25 ล้านหุ้น
จากการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงให้แก่บุคคลในวงจำกัด
- ด้วยความร่วมมือกับโอริกซ์ บริษัทฯ ได้ซื้อกิจการของ บริษัท แคปปิตอล โอเค จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อเพื่อการอุปโภคและบริโภครายใหญ่ของประเทศ
|
|
 |
2551 |
- อินเตอร์เนชั่นแนล ไฟแนนซ์ คอร์ปอเรชั่นได้ร่วมลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันสร้างความมั่นคงให้กับการบริหารสินทรัพย์
และพัฒนาการให้บริการบริหารหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ในภูมิภาคเอเชีย
|
|
 |
2552 |
- เพิ่มทุนจดทะเบียนในบริษัท เอแคป เซอร์วิสเซส เป็น 10 ล้านบาท และเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท
โกลบอล เซอร์วิส เซ็น เตอร์ จำกัด (GSC) เพื่อขยายการรับจ้างดำเนินงาน (Outsourcing
Business) ในส่วนของบริการติดตามหนี้ และงาน บริการด้าน Call Center
- เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท แคปปิตอล โอเค จำกัด จากเดิมที่บริษัทฯถือหุ้นอยู่ร้อยละ
50.99 เป็นถือ หุ้นร้อยละ 99.99 โดยซื้อจากผู้ถือหุ้นเดิม คือ โอริกซ์ คอร์ปอเรชั่น
เป็นสัดส่วนร้อยละ 49.01 ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ของบริษัทฯ
|
|
 |
2553 |
- กุมภาพันธ์ ACS ได้รับการแต่งตั้งจากสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง ให้เป็นที่ปรึกษาประเภท
A หมายเลข 3093 ใบอนุญาตนี้จะทำให้เอซีเอสสามารถเข้าประมูลหรือรับงานที่ปรึกษาของหน่วยงานราชการได้
- เพิ่มทุนจดทะเบียนในบริษัทย่อยของ CAP OK คือ P COL จากทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 20 ล้านบาท
เป็น 220 ล้านบาท
- จัดตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ เอแคป (เอเชีย) จำกัด (บบส.เอแคป (เอเชีย)) มีบริษัทย่อยเป็นผู้ถือหุ้น
และได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย ประกอบธุรกิจเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ตามพระราชกำหนดบริษัทบริหารสินทรัพย์
พ.ศ. 2541 มีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 25 ล้านบาท เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเข้าประมูลพอร์ตบริหารสินทรัพย์เพิ่มในอนาคต
|
|
 |
2554 |
- จัดตั้งบริษัท ออรั่ม แคปปิตอล แอ๊ดไวเซอรี่ พีทีอี ขึ้นในประเทศสิงคโปร์ โดยถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ
63.97 เพื่อให้บริการงานด้านวาณิชธนกิจ
- ขายเงินลงทุนทั้งหมดในบริษัทย่อย บบส.สตาร์
|
|
2556 |
- ขายเงินลงทุนทั้งหมดในบริษัทย่อยบบส.เอแคป
- ปิดและชําระบัญชีบริษัท เอแคป (มาเลเซีย) เอสดีเอ็น บีเอชดี ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นบริษัทย่อย
|
|
2557 |
- ดร.วิวัฒน์ วิฑูรย์เธียร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทฯ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุด
ลดสัดส่วนการถือหุ้นลงจากร้อยละ 49.19 เหลือร้อยละ 8.87
- บริษัทฯ ซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัท โปรเฟสชั่นแนล คอลเลคชั่น จํากัด (PCOL) จาก CAP
OK ที่เป็นบริษัทย่อยร้อยละ 99.99 ของบริษัทฯ จํานวน 6,204,993 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ
99.99 ของทุนจดทะเบียนของ PCOL ภายหลังทําให้บริษัทฯ ถือหุ้นใน PCOL โดยตรงที่สัดส่วนร้อยละ
99.99
|
|
2558 |
- บริษัท เอแคป คอร์ปอเรท เซอร์วิสเซส จํากัด (ACS) เพิ่มทุนจดทะเบียนจํานวน 4,000,000
บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 31,000,000 บาท เป็น 35,000,000 บาท มูลค่าหุ้นละ 10 บาท โดยออกหุ้นสามัญใหม่จํานวน
400,000 หุ้น เพื่อเสริม สภาพคล่องในการดําเนินกิจการของบริษัท
- ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2558 ดร.วิวัฒน์ วิฑูรย์เธียร ประธานกรรมการบริษัท ประธานเจ้าที่บริหาร
และกรรมการผู้จัดการ บริษัทได้ลาออกจากทุกตําแหน่งของบริษัทฯ โดยยังคงตําแหน่งกรรมการบริษัทอยู่
ต่อมาวันที่ 22 มิถุนายน 2558 ได้ขาย หุ้นทั้งหมดให้กับผู้ถือหุ้นกลุ่มใหม่และลาออกจากกรรมการบริษัทฯ
- บริษัทโปรเฟสชันแนล คอลเลคชั่น จํากัด เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท โอเค แคช จํากัด (OK
Cash) และเปลี่ยนตราประทับ บริษัทเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2558
- บริษัทฯ เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัท บริหารสินทรัพย์ เอแคป (เอเชีย) จํากัด (บบส.เอแคป
(เอเชีย)) จากร้อยละ 2.39 เป็นร้อยละ 99.99 ของทุนจดทะเบียนของ บบส.เอแคป (เอเชีย)
โดยซื้อหุ้นเพิ่ม จากบริษัท แคปปิตอล โอเค (CAP OK) จํานวนทั้งสิ้น 2,440,001 หุ้น
- บริษัท โกลบอล เซอร์วิส เซ็นเตอร์ จํากัด (GSC) เพิ่มทุนจดทะเบียนจํานวน 50,000,000
บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 10,000,000 บาท เป็น 60,000,000 บาท มูลค่าหุ้นละ 10 บาท โดยออกหุ้นสามัญใหม่จํานวน
5,000,000 หุ้น เพื่อให้ เหมาะสมกับขนาดของธุรกิจที่กําลังดําเนินอยู่
- บริษัทฯ ขายหุ้นของบริษัท เอแคป คอร์ปอเรท เซอร์วิสเซส จํากัด (ACS) ที่ถือไว้ทั้งหมด
คือ ในสัดส่วนร้อยละ 99.99 ของทุนจดทะเบียนให้กับผู้ถือหุ้นใหม่ เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม
2558
|
|
2559 |
- 17 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2559 มีมติให้เปลี่ยนชื่อบริษัท
เอแคป แอ๊ดไวเซอรี่ จํากัด (มหาชน) เป็นบริษัท เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป จํากัด (มหาชน)
- 26 กุมภาพันธ์ 2559 จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงชื่อจาก บริษัท เอแคป แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด (มหาชน)
เป็นบริษัท เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กับกระทรวงพาณิชย์
- 29 เมษายน 2559 ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559 มีมติดังนี้
I. เปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของบริษัท จาก 1.00 บาทต่อหุ้น เป็น 0.50 บาทต่อหุ้น
II. ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท จำนวนไม่เกิน 62,500,000 หน่วย แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering)
III. เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท จำนวน 31,250,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 62,500,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท
- 10 พฤษภาคม 2559 เพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 31,250,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 125,000,000 บาท
เป็น 156,250,000 บาท
- 10 พฤษภาคม 2559 จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ของบริษัทจาก 1.00 บาทต่อหุ้น เป็น 0.50 บาทต่อหุ้น
ทำให้บริษัทมีทุนจดทะเบียนจำนวน 125,000,000 บาท มูลค่าหุ้นละ 0.50 บาท จำนวน 250,000,000 หุ้น
- 29 มิถุนายน 2559 บริษัทฯ ออกและเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทฯ ครั้งที่ 2/2559 จำนวน 547.10 ล้านบาท
- วันที่ 1 สิงหาคม 2559 ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของ
บริษัท เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)ครั้งที่ 1 (ACAP W-1) จำนวนไม่เกิน 62,500,000 หน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) จำนวน 4 หุ้น ต่อ
ใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย
- 14 ตุลาคม 2559 บริษัทฯ ออกและเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทฯ ครั้งที่ 3/2559 จำนวน 1,237.30 ล้านบาท
- 19 ธันวาคม 2559 เปลี่ยนแปลง ทุนจดทะเบียนชำระแล้วเป็น 152,344,675 บาท จากเดิม 125,000,000 บาท
- 27 ธันวาคม 2559 ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 2/2559
มีมติให้ออกและเสนอขาย(ตราสารหนี้)หุ้นกู้จำนวนไม่เกิน 4,000 ล้านบาท
|
|
2560 |
- 10 มีนาคม 2560 บริษัทฯ ออกและเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2560 จำนวน 454.20 ล้านบาท
- 27 มีนาคม 2560 ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2560 มีมติดังนี้
- ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท จำนวนไม่เกิน 76,172,338 หน่วย แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering)
- เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท จำนวน 39,086,169 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 76,172,338 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท
- 10 เมษายน 2560 เพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 39,086,169 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 156,250,000 บาท
เป็น 195,336,169 บาท
- วันที่ 29 พฤษภาคม 2560 ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของ
บริษัท เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 2 (ACAP-W2) จำนวนไม่เกิน 76,172,338 หน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) จำนวน 4 หุ้น ต่อ ใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย
|
|
|